start stop system

ระบบ start-stop (ISS) คืออะไร

ทำไมต้องพัฒนาระบบStart – Stop System

ในปัจจุบันโลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยสาเหตุหนึ่งมาจากการปล่อยค่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่มากเกินไป  ซึ่งมาจากอุตสาหกรรมต่างๆ รวมทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยเช่นกัน  ดังนั้น ผู้ผลิตในสายอุตสาหกรรมยานยนต์นั้นจึงพยายามคิดค้นกันมาเป็นระยะเวลานาน เพื่อทำอย่างไร?  ที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ให้น้อยลงหรือไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ออกมาเลย

จึงเกิดเป็นการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ,รถยนต์ไฮบริด ,รถยนต์ที่มีระบบ ISS System (Start Stop System) พร้อมทั้งรถยนต์ที่ติดตั้งระบบไดชาร์จอัจฉริยะ (AMS System)  การพัฒนาดังกล่าวล้วนมีผลกระทบโดยตรงต่อแบตเตอรี่ ทำให้ผู้ผลิตแบตเตอรี่ต้องมีการพัฒนาประสิทธิภาพให้สูงขึ้นเพื่อรองรับการทำงานที่หนักมากยิ่งขึ้น  

กราฟเปรียบเทียบระบบการทำงานของระบบ

normal battery usage graph
การทำงานของระบบรถยนต์ทั่วไป
AMS battery usage graph
การทำงานของระบบ AMS
ISS battery usage graph
การทำงานของระบบ Start Stop

AMS (Alternator Manager System)

“ข้อดี” ของการมีระบบ AMS (Alternator Manager System) คือ ช่วยในการประหยัดน้ำมัน เพิ่มกำลังเครื่องยนต์ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) แต่แบตเตอรี่ทำงานหนักมากขึ้น

ระบบ AMS หรือเรียกอีกอย่างว่าไดชาร์จอัจฉริยะ โดยปรกติเครื่องยนต์ของรถยนต์จะมีแม่เหล็กไฟฟ้า ที่หน่วงเครื่องยนต์ไว้ 2 ตัว ได้แก่ ไดชาร์จ  และ คอมเพรสเซอร์แอร์ ทุก ๆ ท่านทราบดีอยู่แล้วว่าหากขับรถยนต์ โดยปิดแอร์ จะทำให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้กว่า 20 -30 %  แต่เราคงไม่สามารถจะขับรถโดยไม่เปิดแอร์ได้  ผู้ผลิตรถยนต์จึงพัฒนาระบบ AMS (ไดชาร์จอัจฉริยะ ) ขึ้นมาเพราะไดชาร์จเป็นแม่เหล็กไฟฟ้าที่หน่วงเครื่องยนต์ไว้มากกว่าคอมเพรสเซอร์แอร์ เมื่อไดชาร์จหยุดการทำงาน หรือ ลดการทำงาน ก็จะลดการหน่วงของเครื่องยนต์ มีผลให้เครื่องยนต์มีกำลังมากขึ้นและประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ลงด้วย และขณะที่ไดชาร์จหยุดการทำงานหรือลดการทำงาน จะทำให้แบตเตอรี่ ต้องทำหน้าที่จ่ายไฟฟ้าให้ระบบของรถยนต์แทนไดชาร์จ ทำให้แบตเตอรี่ต้องทำงานหนักยิ่งขึ้น

ISS Start stop system

“ข้อดี” ของการมีระบบ Start Stop System นั้นสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ออกมาได้ เมื่อรถยนต์ของผู้ขับขี่นั้นจอดสนิทอยู่กับที่และอีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานโดยไม่จำเป็นอีกด้วย แต่แบตเตอรี่ทำงานหนักมากขึ้น

ระบบ Start Stop System เป็นเสมือนตัวเปิด-ปิดระบบ การทำงานของเครื่องยนต์ ซึ่งระบบนี้จะทำงานเมื่อรถของผู้ขับขี่จอดสนิทหรือติดไฟแดง ระบบก็จะทำหน้าที่ในทันที โดยการดับเครื่องยนต์ ทำให้ไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ออกมา แต่ระบบไฟฟ้าภายในห้องโดยสารนั้นยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ (ระบบไฟฟ้าในรถยนต์จะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ที่อยู่ภายในรถยนต์ ) และเมื่อผู้ขับขี่ได้ทำการถอนการเหยียบแป้นเบรกขึ้นเครื่องยนต์ก็จะเริ่มการทำงานอีกครั้งด้วยเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ผู้คิดค้นจึงนำระบบ Start Stop System มาใช้ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)  และลดการเกิดมลพิษที่ไม่จำเป็น

PUMA START STOP ดีอย่างไร และระบบรถยนต์รุ่นใหม่ทำงานอย่างไร